Phuthapboek / ภูทับเบิก


ภูทับเบิก สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,768 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมากางเต็นท์ เพื่อสัมผัสอากาศเย็นที่นี่ เส้นทางระหว่างขึ้นเขาสวยงามน่าแวะถ่ายรูปแทบทุกจุด ส่วนเรื่องความโค้งของถนนนั้นภูทับเบิกก็สุดยอดไม่แพ้ใคร....

สำหรับคนที่ไม่มีรถ ก็มาเที่ยวภูทับเบิกได้นะคะ พวกเราลองมาแล้ว โดยนั่งรถทัวร์มาลงที่สถานีขนส่งหล่มสัก แล้วค่อยเหมาสองแถวขึ้นไปบนภูอีกที แต่แนะนำว่าให้ติดต่อรถสองแถวที่จะขึ้นภูทับเบิกไว้ล่วงหน้าก่อนดีกว่าค่ะ นัดเวลากับเค้าให้ดีว่าเราจะลงรถเวลาไหน ยังไง ส่วนเรื่องราคาก็แล้วแต่ตกลงนะคะ ระหว่างทางขึ้นภูทับเบิกจะมีจุดพักรถให้แวะเข้าห้องน้ำ, มีร้านขายอาหารด้วย หรือจะ shopping สินค้าผักสดๆ จากไร่ของขาวบ้านก็ได้ สินค้าดีราคาถูก




มีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปกันแบบจุใจ มองเห็นวิวภูเขาได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา


จากนั้นก็ขับรถไปเรื่อยๆ จนถึงสถานที่กางเต็นท์บนภูทับเบิก ซึ่งก็มีให้เลือกอยู่หลายเจ้าเหมือนกัน เป็นแบบบ้านพักก็มี (ส่วนนี้ลองหาข้อมูลเพิ่มนะ) ส่วนพวกเราเลือกที่พักของวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก มีบริการให้เช่าเต็นท์พร้อมเครื่องนอน และอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ มีห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำสะดวกสบายพอสมควร (เสียอย่างเดียวคือยังไม่มีน้ำอุ่นให้บริการ) แล้วบริเวณรอบๆ ยังมีร้านอาหารของใช้ต่างๆ เปิดบริการอีกมากมาย



เพิ่มเติม : สำหรับราคาเช่าเต็นท์บนวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก
แบบที่ 1 ชนิดนอนได้ 4 คน ราคา 650 บาท สิ่งที่ได้
ผ้าห่ม 4 ผืน, หมอน 4 ใบ, เสื่อ 1 ผืน  ถ้าเช่าเต็นท์เปล่าๆ 400 บาท

แบบที่ 2 เต้นท์เล็กนอนได้ 2 คน ราคา 400 บาท สิ่งที่ได้
ผ้าห่ม 2 ผืน, หมอน 2 ใบ, เสื่อ 1 ผืน  เช่าเต็นท์เปล่าๆ 250 บาท

ถ้านำเต็นท์มาเอง สามารถเช่าแต่เครื่องนอนก็ได้ หรือถ้านำเครื่องนอนมาเองก็เช่าเต็นท์อย่างเดียวได้ ราคา : หมอน 20 บาท/ใบ, ผ้าห่ม 60 บาท/ผืน, เสื่อ 30 บาท/ใบ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่นำเต็นท์และอุปกรณ์มาเองทั้งหมด จะเก็บค่าบำรุงสถานที่คนละ 50 บาท

อุณภูมิตอนเที่ยงของที่นี่ (19 องศา) อากาศเย็นสบาย~ ไม่ร้อนเลย ไม่มีแดด แถมยังฟ้าครึ้มด้วย
หลังจากจัดแจงที่นอนหมอนผ้าห่ม และเก็บข้าวของเข้าเต็นท์เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกไปสำรวจภูทับเบิกกัน เดินดูร้านค้าชาวบ้านที่นำสินค้าพื้นเมืองออกมาวางขาย แต่ละอย่างสวยงามน่าซื้อทั้งนั้น มีมุมถ่ายรูปสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างพวกเรามากมายหลายมุม และยังมีสวนดอกไม้สวยๆ ให้เราเข้าไปถ่ายรูปกันด้วย ได้ไปเห็นของจริงแล้วสวยมากเหมือนเป็นฉากในละครเลยค่ะ บรรยากาศแบบนี้ต้องมาดูด้วยตาตัวเองค่ะ





ช่วงเย็นเรามีกิจกรรมแคมป์ปิ้งบาร์บีคิว (BBQ) ที่หน้าเต็นท์กันนะจ้ะ (วิสาหกิจชุมชนมีอุปกรณ์ให้เช่า ครบชุด) แต่พวกเนื้อ หรือของกินที่จะเอามาย่างต่างๆ นั้น ต้องเตรียมมาเองนะ ข้างบนไม่มีของดิบค่ะ มีแต่ผักกับอาหารสำเร็จรูป แล้วจะบอกว่าที่ภูทับเบิกนี่นะ ยิ่งค่ำยิ่งอากาศเย็น~ เป็นช่วงเวลาที่ชอบที่สุด! นั่งคุยกันท่ามกลางธรรมชาติพร้อมย่างเนื้อหอมๆ (พวกเราซื้อเตรียมมาจากตลาดสดในตัวเมืองเพชรบูรณ์ตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ) คิดถึงฉากนี้ทีไร ทำให้อยากกลับไปเที่ยวภูทับเบิกทุกทีเลย....

-------------------------------

เช้านี้ตื่นขึ้นมาด้วยความทรมาน เพราะอากาศตอนเช้าหนาวมาก!! อุณภูมิประมาณ 10 - 12 องศา. และสิ่งที่ท้าทายก็คือการอาบน้ำเย็น ที่เย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งซะอีก (อาบน้ำที่นี่คุณจะหนาวจนตัวชา) ใครชอบสะใจอาบเลย!! ถ้ามาเที่ยวในช่วงเดือน ก.ย.-พ.ย. ตามข้อมูลบอกว่าจะสามารถเห็นทะเลหมอกตอนเช้าได้ดีกว่าหน้าหนาวซะอีกนะ แต่พวกเราแค่ได้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า แค่นี้ก็สวยงามถูกใจที่สุดแล้วล่ะค่าาาา


ชอบแสงแดดตอนเช้าที่สุด พวกเราเดินชมวิวไปเรื่อย พร้อมกาแฟอุ่นๆ ในมือ (ของกินและอาหารเช้า ชาวบ้านมีวางขายนะคะ อุดหนุนกันได้) วิวตอนเช้าที่นี่สวยไม่แพ้ดอยสูงทางภาคเหนือเลย



ภูทับเบิกแห่งนี้เป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภูเขาหลายลูกเต็มไปด้วยต้นกะหล่ำปลี ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เห็นแต่ไร่กะหล่ำปลีสีเขียวๆ มองแล้วสบายตาที่สุด ถ้าจะลงไปถ่ายในไร่ ตอนเดินต้องระวังต้นกะหล่ำปลีด้วยนะคะ ค่อยๆ เดินตามช่องว่าง อย่าไปเหยียบเค้าเชียว







ช่วงสายๆ อาจจะเดินทางต่อเข้าไปยังหมู่บ้านทับเบิก บ้านชาวเขา ซื้อสินค้าที่ระลึกของน้องๆ เด็กชาวเขา แล้วก็แวะไหว้พระวัดป่าบ้านทับเบิก กันได้นะคะ

จากนั้นก็ได้เวลาบ๊าย บาย~ ภูทับเบิก ที่ให้ความสุขและความประทับใจกับนักท่องเที่ยวอย่างพวกเรามากมาย ลองมาเที่ยว มาสัมผัสความสวยงามบนภูทับเบิกกันดูสักครั้ง มานอนเต็นท์ นั่งล้อมวงคุยกันใต้แสงดาว แล้วคุณจะตกหลุมรักภูทับเบิกแน่นอน   ก่อนกลับบ้านก็อย่าลืมสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด เติมพลังกันให้เต็มที่ ที่สำคัญเก็บขยะที่ทิ้งไว้เมื่อคืนให้หมดด้วยนะ ช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติให้อยู่กับเราไปนานๆ ♪♫.. ♪♫...




1 comments:

Anonymous said...

This is a topic that is near to my heart...
Cheers! Exactly where are your contact details though?



Feel free to visit my weblog; เครื่องนอน