เตรียมตัวเที่ยวอังกฤษ (England)

อังกฤษเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ มีชื่อเสียงทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม กีฬา และสถานที่ช้อปปิ้งระดับโลก เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร เพื่อให้ทริปการเดินทางในฝันของคุณสนุกและปลอดภัย จึงต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปเยือนเมืองผู้ดี N2Trip มีบทความมาให้อ่านเป็นข้อมูลเบื้องต้นก่อนออกเดินทางค่ะ



เริ่มกันที่ลักษณะภูมิอากาศก่อนนะคะ อังกฤษ มี 4 ฤดูกาล

ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) เดือนมีนาคม - พฤษภาคม อากาศจะเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก บางวันอากาศอบอุ่น บางวันหนาวเย็น หรือมีฝนตก

ฤดูร้อน (Summer) เดือนมิถุนายน - สิงหาคม อากาศส่วนใหญ่อบอุ่นและมีแดดจ้า (อุณหภูมิประมาณ 18 - 22 องศาเซลเซียส)

ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) เดือนกันยายน - พฤศจิกายน อากาศจะเย็นขึ้นเรื่อยๆ ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี

ฤดูหนาว (Winter) เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ ช่วงนี้จะหนาวมากที่สุด หิมะตก และความชื้นสูง (อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด -3 ถึง 2 องศาเซลเซียส)

*ควรเตรียมเสื้อผ้าไปให้เหมาะสมกับฤดูกาลที่จะเดินทาง ในช่วงเปลี่ยนฤดูควรพก Rain Jacket ไปด้วย เพราะฝนสามารถตกได้ทุกฤดูกาล คุณอาจจะเจอ 4 ฤดูในหนึ่งวัน ซึ่งถือว่าปกติมาก

การเตรียมเครื่องแต่งกายในช่วงหนาวจัด แนะนำดังต่อไปนี้
ในช่วงฤดูหนาว อากาศจะหนาวมาก อุณหภูมิติดลบ เสื้อผ้าที่ใส่ควรจะเป็น overcoat หนาๆ ไม่ต้องซื้อจากเมืองไทยนะคะ เพราะเปลืองที่ในกระเป๋า หลายเสียงบอกว่าให้ไปซื้อที่นั่นเลย ราคาถูกกว่าและมีขายเยอะมาก ราคาตั้งแต่ 30 - 250 ปอนด์ และอย่าลืมชุดลองจอห์นเด็ดขาด ไว้ใส่เพิ่มความอุ่นค่ะ

เวลา
สหราชอาณาจักร เป็นที่ตั้งของเส้นแบ่งเขตเวลาโลก (GMT - Greenwich Mean Time) ดังนั้นเวลาที่อังกฤษจะช้ากว่าเวลาประเทศไทย 6 - 7 ชั่วโมง โดยสหราชอาณาจักรจะเปลี่ยนเวลา daylight saving จาก GMT ไปใช้ BST (British Summer Time) ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งหมายถึงการปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในช่วงปลายเดือนมีนาคม – ปลายเดือนตุลาคมนั่นเอง

ระยะเวลาในการบิน จากประเทศไทยบินตรงสู่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ใช้เวลาบินประมาณ 11 ชั่วโมงค่ะ

สกุลเงินของประเทศอังกฤษ คือ ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP)
โดย 1 ปอนด์สเตอร์ลิง = 51 - 52 บาทไทยโดยประมาณ ขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจ
ธนบัตรประกอบด้วย 5, 10, 20 และ 50 ปอนด์ สำหรับเหรียญก็มีมูลค่าตั้งแต่ 1, 2, 5, 10, 20, 50 เพนนี และ 1, 2 ปอนด์

**พกบัตรเครดิตไปด้วย เพราะที่อังกฤษนิยมใช้บัตรเครดิตกันอย่างแพร่หลาย ร้านค้าทุกร้านตั้งแต่ร้านอาหารทั่วไป ร้านขายของชำ จนถึงร้านแบรนด์เนมสุดหรู สามารถชำระด้วยบัตรเครดิตได้ทั้งหมด ในบางกรณีบัตรเครดิตก็ใช้ยืนยันสถานภาพส่วนบุคคล โดยเฉพาะในการจองตั๋วบริการต่างๆ และในสถานบริการหลายแห่งก็รับเฉพาะบัตรเครดิตเท่านั้น

ระบบไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าที่อังกฤษเหมือนบ้านเรา คือ 220 โวลต์ ปลั๊กเป็นแบบ 3 ขาเหลี่ยม อย่าลืมเตรียมหัวแปลงปลั๊กไฟแบบ Universal ไปด้วยนะคะ

วีซ่าท่องเที่ยวของประเทศอังกฤษ ตามปกติจะออกให้เป็นเวลา 6 เดือน
ผู้ที่สมัครขอวีซ่าเข้าประเทศอังกฤษ เมื่อได้รับวีซ่าแล้วสามารถเข้าไปเที่ยว สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือได้ เพราะทุกที่ที่กล่าวมาก็คือประเทศเดียวกันที่รวมเรียกว่าสหราชอาณาจักร (United Kingdom) นั่นเอง

ใบรับรองสุขภาพ
ในการจะขอวีซ่าและเดินทางไปอังกฤษ นอกจากใบรับรองสุขภาพทั่วไปแล้ว ยังจะต้องมีใบรับรอง IOM certificate หรือใบรับรองว่าไม่ได้เป็นวัณโรคอีกด้วย

ซื้อประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ
เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลแพงมาก ฉะนั้นทางที่ดีจึงสมควรซื้อประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุในช่วงเวลาเดินทางด้วย

บัตรออยสเตอร์การ์ด (Oyster Card)
บัตรอัจฉริยะที่ช่วยให้เดินทางทั้ง Underground, Overground, DLR ไปจนถึงรถเมล์ โดยรูปแบบการใช้งานจะคล้ายๆ บัตร Ez-link ของสิงคโปร์ หรือบัตร Octopus Card ของฮ่องกงนั่นเองค่ะ สามารถหาซื้อตั๋วได้ทุกสถานี 

ภาพประกอบจาก alittlebuddha.com




การเดินทางในลอนดอนนั้นไม่ลำบากเลย เพราะเราสามารถเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน London Underground อย่าลืมหยิบแผนที่ Tube map ติดตัวไว้ด้วยนะคะ โดยเส้นทางของรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนจะครอบคลุมทั้ง 6 Zones ในตัวเมือง

ยกตัวอย่างการเดินทางข้ามเมืองด้วยรถไฟนะคะ เช่น จากลอนดอน (London) ไปแมนเชสเตอร์ (Manchester) ถ้าเราเดินทางไปสหราชอาณาจักร โดยเข้าเมืองจากสนามบิน ณ กรุงลอนดอน การเดินทางจากลอนดอนไปแมนเชสเตอร์ที่สะดวกที่สุดคือ นั่งรถไฟจากสถานี London King’s Cross ไปยังสถานี Manchester Piccadilly ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เห็นมั้ยคะว่าการเดินทางในเมืองหลวงนั้นไม่ยากเลย~ แต่คุณต้องวางแผนให้ดีเท่านั้นเอง

ส่วนค่าตั๋วรถไฟและระยะเวลาสามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมที่ www.nationalrail.co.uk และ www.thetrainline.com ได้นะคะ


ขอบคุณข้อมูลจาก
www.skyscanner.co.th
www.myuktrip.com
www.tibbook.com
www.mystudyuk.hands-onconsultants.com
www.hotcourses.in.th

 

0 comments: