ก่อนเริ่มทัวร์ฟาร์ม เราต้องไปชมวีดีทัศน์ประกอบคำบรรยายเกี่ยวกับฟาร์มโชคชัยในอดีต เพื่อทำความเข้าใจข้อห้ามและข้อปฏิบัติภายในบริเวณฟาร์ม เจ้าหน้าที่จะแจกกระเป๋าผ้าใบเล็กๆ ให้ ทริปนี้พวกเราได้อยู่กลุ่มสีฟ้า (สีทีมที่เราชอบซะด้วย ^O^) จากนั้นทุกคนต้องเดินผ่านอุโมงค์สเปรย์ และล้างมือเพื่อฆ่าเชื้อกันก่อน
จุดแรกที่ไปคือศูนย์พันธุกรรมโคนม นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้จุดกำเนิดเริ่มต้นของวงจรชีวิตโคนม ชมการสาธิตวิธีรีดเก็บน้ำเชื้อพ่อพันธ์โค พร้อมฟังคำบรรยายวิธีการพัฒนาและปรับปรุงสายพันธ์โคนมของฟาร์มโชคชัย
แล้วไปต่อที่ โรงรีดนม นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้กระบวนการรีดนม ชมขั้นตอนการรีดนมที่ถูกวิธี ได้เห็นคุณลักษณะทางกายภาพของน้ำนมดิบคุณภาพดี เราได้ทดลองดมกลิ่นน้ำนมดิบที่เพิ่งรีดออกมาสดๆ ด้วย กลิ่นหอมคล้ายๆ นมจืด นมพร่องมันเนยประมาณนั้น
*ถ้าทัวร์ช่วงบ่ายจะเป็นการสาธิตรีดนมด้วยเครื่องรีดนมอัตโนมัติ และสาธิตการรีดนมด้วยมือ
แต่ถ้าทัวร์ช่วงเช้าจะได้ชมความสามารถของสุนัขในการต้อนฝูงแกะในรูปแบบต่างๆ แทนค่ะ
จากนั้นเราก็ไปนั่งขบวนรถคาราวาน "ฟาร์มแทร็กเตอร์" ชมความยิ่งใหญ่ของฟาร์มโชคชัยบนพื้นที่กว่า 20,000 ไร่ ผ่านคอกแม่โคพันธุ์ดี ฟังความรู้เกี่ยวกับ พืชอาหารสัตว์และวิธีการหมุนเวียนทรัพยากรน้ำภายในฟาร์ม ชมทัศนียภาพท้องทุ่งกว้าง การปลูกพืชอาหารสัตว์ แปลงหญ้า แปลงข้าวโพดเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ บ่อหญ้าหมัก และทุ่งดอกทานตะวันที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ภายในฟาร์ม
ฟาร์มแทร็กเตอร์ |
แม่โคพันธุ์ดีกำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย |
เจ้าหน้าที่บรรยายข้อมูลความรู้เกี่ยวกับกิจการฟาร์มโคนม การเลี้ยงและการจัดการโคนมแต่ละช่วงอายุ เรียนรู้กระบวนการเลี้ยงโคนมทั้งแบบขังคอก และการเลี้ยงแบบปล่อยแปลง การจัดการของเสียจากฟาร์มปศุสัตว์ และการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในบริเวณฟาร์ม เป็นต้น
ทัวร์ฟาร์มรอบนี้เราได้ไกด์ที่น่ารักมากๆ เสียงเพราะฟังแล้วเพลินดี ไกด์บอกว่าเศษผักและเศษอาหารจากร้านสเต็กเฮ้าส์ที่ลูกค้ากินเหลือ จะถูกนำมาผ่านกระบวนการย่อยสลายโดยไส้เดือนดิน ให้กลายเป็นปุ๋ยจากมูลไส้เดือน เพื่อเป็นปุ๋ยให้พืชต่อไป (wow... เป็นกรรมวิธีที่เยี่ยมมากค่ะ)
จุดหมายปลายทางต่อไป Cowboy Station จุดนี้มีอะไรให้ทำหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งขี่ม้า นั่งรถม้า เล่นเกมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปาเป้าลูกโป่ง โยนเกือกม้า ยิงปืนทดสอบความแม่น หรือจะนั่งรถอีแต๋นไปชมแปลงสาธิตข้าวสาลี สวนแก้วมังกร และทุ่งทานตะวันก็ได้นะ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมทุกอย่าง) เหอๆๆ...
จากนั้นทุกคนก็มานั่งรอชมการแสดงวิถีชีวิตของคาวบอยที่โรงคาวบอย แสดงการขี่ม้า, การคล้องวัวด้วยบ่วงบาศ, ล้มวัว, ควงปืน และใช้แส้ (การแสดงคล้ายกับที่ทองสมบูรณ์)
ชมโชว์เสร็จก็ขึ้นรถไปที่จุดต่อไป ระหว่างทางที่นั่งรถฟาร์มแทรคเตอร์ คุณจะได้ชมวิวทิวทัศน์ภายในฟาร์ม พร้อมไกด์บรรยายให้ความรู้ตลอดทาง (ถ้ามีการบรรยายภาษาอังกฤษเพิ่มจะดีมากๆ เลยค่ะ)
ที่เห็นด้านซ้ายมือนั่นคือ หญ้าเฮย์ (Hay) - เป็นชื่อใช้เรียกสำหรับหญ้าหรือพีชตระกูลถั่ว ที่ได้ถูกตัดและนำไปทำให้แห้ง โดยฟาร์มโชคชัยก็ใช้เครื่องอัดหญ้าขนาดใหญ่อัดเป็นก้อนๆ ไว้ เห็นว่าหนักถึง 500 กิโลกรัมเชียวนะคะ ใครจะซื้อไปเป็นของฝากก็ตามสบายเลย อิอิ...
I wanna be a Cowboy. |
ระหว่างทางได้ชมฟาร์มม้าแข่งสายพันธุ์ดีจากต่างประเทศซะด้วย เท่สุดๆ ไปเลย ><
จากนั้นก็ออกมานั่งชมการแสดงของสัตว์แสนฉลาด ที่ออกมาโชว์ความน่ารัก ไม่ว่าจะเป็น น้องหมาทำตามคำสั่ง ทั้งหมอบ คลาน กระโดดเชือก ลอดห่วง และให้นมลูกวัว, นกแก้วนับเลข, แพะไต่ถัง ฯลฯ สัตว์แต่ละตัวก็โชว์ความสามารถกันเต็มที่ เรียกเสียงตบมือและเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้ตลอดการแสดง เจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าที่พิธีกรได้ดีมากๆ ค่ะ
เตรียมตัวเที่ยวฟาร์มโชคชัยให้สนุก
แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ใส่สบายเหมาะสมตามฤดูกาล สวมรองเท้าที่เดินได้คล่อง อย่าลืมทาครีมกันแดด และหมวกด้วยค่ะ
ฟาร์มโชคชัยเป็นฟาร์มที่ได้รับมาตรฐานฟาร์มโคนม ซึ่งมีฝูงโคนมขนาดใหญ่ มีระบบการบริหารจัดการที่ดี และเป็นฟาร์มแห่งแรกของประเทศไทยที่มีการส่งออกโคนมสู่ต่างประเทศ เป็นการทัวร์ฟาร์มที่สนุกและได้ความรู้จริงๆ พิกัด GPS : 14.656077,101.346461
ภาพนี้เป็นร้าน Umm! Milk ใกล้ๆ คาวบอยโซน แวะดื่มกาแฟระหว่างทัวร์ค่ะ |
ก่อนกลับบ้านเราก็แวะซื้อของอร่อยๆ จากอืมม!...มิลค์ (Umm! Milk) กันก่อน เป็นอีกแบรนด์ที่เราชื่นชอบทั้งอร่อยและมีประโยชน์ ฮิตสุดก็คงจะเป็นไอศกรีมรสต่างๆ พนักงานที่ร้านด้านหน้าฟาร์มแพ็คให้ดีมาก ผ่านไปเกิน 4 ชม. ไอศกรีมยังไม่ละลายเลยค่ะ♥
ระหว่างที่ซื้อของด้านหน้าฟาร์มโชคชัยอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นกองทัพหญ้าเฮย์ (Hay Park) ขนาดใหญ่ สีสันสวยงาม พวกเราไม่รอช้า วิ่งเข้าไปถ่ายรูปกันทันที
Hay Park |
Minion ก็มีนะ |
แก๊งค์ Line ก็มา |
ระหว่างเส้นทางกลับกรุงเทพฯ เราจะผ่านวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ซึ่งมีหลวงพ่อขาว พระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (จำได้มั้ยคะ ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ก็มีพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทยอยู่ด้วย) หลวงพ่อขาวประดิษฐาน บนยอดเขาสูงจากระดับพื้นดิน 112 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวข้างบนได้ ระยะทางจากฟาร์มโชคชัยประมาณ 12 กม. พิกัด GPS : 14.616244,101.265519 หรือโทร 044361667-8 ถ้ามีเวลาก็ใส่เพิ่มในโปรแกรมได้ค่ะ
หากจะขึ้นไปนมัสการหลวงพ่อขาว หรือหลวงพ่อใหญ่ จะมีบันไดทางขึ้นสองด้านประกอบกันเป็นรูปใบโพธิ์ขึ้นไปบรรจบกันที่องค์พระ มีบันไดรวมทั้งสิ้น 1,250 ขั้น ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 30 นาที หรือน้อยกว่านั้น (นี่! แอบข่ม เพราะพวกเราเดินไว ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีค่ะ อิอิ..) มีจุดแวะพักเป็นช่วงๆ แนะนำให้พกน้ำดื่มขึ้นไปด้วยสักขวดนะ บางทีเดินไม่ไหวเราก็นั่งพักกันตรงขั้นบันไดนั่นแหล่ะ -*- แต่ขึ้นไปถึงข้างบนแล้วหายเหนื่อยค่ะ เพราะปกติเราจะมองเห็นจากที่ไกลๆ แต่วันนี้ได้ขึ้นมานมัสการองค์พระแบบใกล้ๆ เป็นอีกความภูมิใจของพวกเรา และบนเขาก็อากาศสดชื่นมากๆ ลมเย็นด้วยล่ะ! (อารมณ์เหมือนเพลง สดชื่นเหมือนยืนบนไหล่เขา)
ส่วนในบริเวณวัดก็มีส่วนบริการให้นักท่องเที่ยวได้ทำบุญถวายสังฆทาน และภายในบริเวณวัดก็มีสัตว์หลากหลายประเภทเดินเล่นไปมาอย่างอิสระ เหมือนเป็นมินิสวนสัตว์แบบย่อมๆ
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีถ้ำต่างๆ พระตำหนักสมเด็จพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ และสวนป่าเจ้าแม่กวนอิม ให้นักท่องเที่ยวได้ไปกราบไหว้กันอีกด้วย
ฉีกหนีความจำเจของการท่องเที่ยว เก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ กับการออกไปเที่ยวที่ได้ทั้งความสนุก และสาระความรู้เต็มเปี่ยม มาเที่ยวทุ่ง ท่องฟาร์ม ออกมาสูดกลิ่นไอธรรมชาติให้ชุ่มปอดด้วยกันนะคะ ♪♫.. ♪♫...
0 comments:
Post a Comment