Chiangkhan / เชียงคาน


ถ้าพูดถึงจังหวัดเลย หลายคนก็ต้องนึงถึงเชียงคาน อำเภอเล็กๆ แต่มีเสน่ห์มากมาย อยู่ติดแม่น้ำโขง เป็นเมืองท่องเที่ยวที่โด่งดังมาก โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว ห้องพักแทบไม่เพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยว เพราะนอกจากจะสวยงามและสงบแล้ว ยังมีสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี รอนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสความสงบที่เชียงคาน...

สำหรับคนกรุงเทพฯ การขับรถไปไกลถึงจังหวัดเลยอาจจะไม่ค่อยเหมาะนัก จะกลายเป็นเหนื่อยมากกว่าไปพักผ่อน เพราะฉะนั้นใช้บริการขนส่งสาธารณะดีกว่าค่ะ เส้นทางเชียงคานมีรถทัวร์ VIP ของ บขส.999 รถกว้าง นั่งสบาย สามารถจองล่วงหน้าได้ เมื่อถึงเชียงคาน รถจอดส่งแถวๆ ตลาดสดเทศบาลเชียงคาน  ถ้ามาถึงช่วงเช้ามืดก็แวะทานข้าวที่ตลาดได้เลย ส่วนพวกเราเลือกอาหารเบาๆ รองท้องที่ร้านปาท่องโก๋ยัดไส้ ชิมแล้วอร่อยค่ะ ทานคู่กาแฟร้อนก็เข้ากันดี

จากนั้นเราไป Check in ที่พักน่ารักๆ อย่างเฮาฮักเชียงคาน อยู่ระหว่างซอย 5 กับซอย 6 ที่พักน่ารักน่านอน ที่สำคัญราคาไม่แพง ที่พักไม่ได้อยู่ติดริมแม่น้ำโขงนะคะ แต่เดินไปไม่ไกล นั่งรถเหนื่อยมาทั้งคืน พักผ่อนกันก่อนนะ

มุมขวาสุดคือห้องที่เราพักกันค่ะ



ด้านนี้เป็นมุมมองจากห้องของเราเอง

ฝนตกปรอยๆ แต่เช้า นอนฟังเสียงฝน + อากาศเย็นๆ ฟินสุดอ่ะ

เฮาฮักเชียงคานเค้ามีจักรยานให้แขกที่เข้าพักได้ใช้กันฟรีๆ ด้วย เราจะปั่นออกไปกินมื้อเช้า กับเมนูที่ห้ามพลาดอย่าง ไข่กระทะ ร้านที่อยากแนะนำให้ไปลองชิมก็คือ ร้านสุวรรณรามา ซอย 9 ร้านนี้เคยเป็นโรงหนังเก่าด้วย มีของโบราณสวยๆ ให้ดูกันเพลินๆ ทั้งไข่กระทะ และกาแฟ ของเค้าอร่อยยกนิ้วเลย

ไข่กระทะ ร้านสุวรรณรามา






ช่วงที่พวกเราไปเที่ยวมีฝนตกปรอยๆ ตลอดเวลา ต้นไม้เขียวสบายตา อากาศก็เย็นสบายกำลังดี มีหมอกจางๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขง โรแมนติกที่สุด และถึงแม้ว่าจะมีฝน เราก็ไม่หยุด เดี๋ยวเอาจักรยานไปเก็บก่อน แล้วติดต่อคุณลุงสามล้อให้มารับหน้าที่พักได้เลย เราจะไปที่ แก่งคุดคู้ กันค่ะ (ที่เชียงคานจะมีรถสามล้อเครื่องบริการรับส่งนักท่องเที่ยว สามารถขอเบอร์ติดต่อไว้ตอนลงรถที่ตลาด หรือให้ทางที่พักช่วยติดต่อให้ก็ได้นะคะ)

แก่งคุดคู้





แก่งคุดคู้ อยู่ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ในช่วงโค้งของลำน้ำโขงพอดี ทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง ในหน้าน้ำ น้ำจะท่วมจนมองไม่เห็นแก่ง เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้คือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ถ้าอากาศดีๆ หน่อยนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อใช้บริการล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขงได้นะคะ ชมบรรยากาศสองฝั่งโขง 2 ประเทศ ไทย-ลาว ใช้เวลาไป-กลับประมาณ 1 ชั่วโมง แต่พวกเราติดฝน ขอเดินเล่นรอบๆ แก่งก็พอ

เดินเล่นถ่ายรูปกันจนทั่วแล้วก็ได้เวลามื้อเที่ยงพอดี ที่แก่งคุดคู้มีร้านอาหารน่านั่งอยู่หลายร้าน เลือกได้ตามสบาย ส่วนพวกเราเลือก ครัวนุชา เพราะบรรยากาศดีอยู่ติดริมโขง ชมวิวไปด้วยกินข้าวไปด้วย สุขใจแท้^^ เมนูแนะนำ เมนูปลาน้ำโขง

ครัวนุชา - กุ้งเต้นก็อร่อยน๊า



ขากลับอย่าลืมแวะซื้อมะพร้าวแก้ว ของกลุ่มแม่บ้านแก่งคุดคู้ด้วยนะคะ เป็นของฝากขึ้นชื่อของที่นี่ ตรงกับคำขวัญอำเภอเชียงคานที่ว่า "เมืองคนงาม ข้าวหลามยาว มะพร้าวแก้ว เพริศแพร้วเกาะแก่ง แหล่งวัฒนธรรม น้อมนำศูนย์ศิลปาชีพ"

กลับมาที่เชียงคานกันต่อ เราจะพาไปเดินเล่นที่ ถนนคนเดิน กันค่ะ มีสินค้าหลากหลายวางขายกันตั้งแต่ซอย 5 ถึงซอย 21 เลยเชียว เป็นอีกหนึ่ง Highlight ของเชียงคาน (ถนนคนเดินเปิดถึงประมาณ 21.30 น.) เดินซื้อของดูรูปกันเพลินๆ เลยนะ


มีจักรยาน - มอเตอร์ไซต์ให้เช่าด้วย (เรียกว่า รถถีบ น่ารักดีค่ะ)
สำหรับมื้อเย็นเราฝากท้องไว้ที่ร้าน บันเจิดเลย ซอย 7 ปิดท้ายคืนนี้ด้วยเมนูแซ่บๆ แล้วเดี๋ยวต้องรีบไปนอน เพราะพรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้ามีกิจกรรมใส่บาตรข้าวเหนียวค่ะ
--------------------------------

ตื่นเช้าเตรียมตัวใส่บาตรข้าวเหนียว สำหรับชุดข้าวเหนียวใส่บาตร ทางที่พักเตรียมไว้ให้หมดแล้ว หากสนใจก็แจ้งโรงแรมหรือบ้านพักไว้ก่อนนะคะ ชุดละ 50 บาท แต่ของเราพิเศษหน่อย คือมีผ้าถุงให้นุ่งด้วย ได้บรรยากาศแบบคนพื้นเมืองจริงๆ


 

ถ้ามาเที่ยวในช่วงหน้าหนาวอย่าลืมใส่โปรแกรมสำคัญอย่าง ภูทอก ไว้ด้วยนะคะ ขึ้นไปดูหมอกตอนเช้ามืดกันก่อน แล้วค่อยลงมาใส่บาตรข้าวเหนียว แต่พวกเรา อด ค่ะ เพราะไปเที่ยวเชียงคานหน้าฝน คนพื้นที่บอกว่า "ช่วงนี้ไม่มีหมอกหรอกหนูเอ๋ย...." T^T

แต่ไม่เป็นไรค่ะ อดดูหมอกก็ไม่เป็นไร เพราะเรายังมีภารกิจที่ต้องทำอีกหลายอย่างในเชียงคาน เช่น การไปกินมื้อเช้าอร่อยๆ ที่ร้านข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ป้าบัวหวาน ซอย 14 หน้าตาจะคล้ายๆ ก๋วยเตี๋ยว แต่ใช้เส้นขนมจีน ปรุงรสแล้วอร่อยแซ่บถูกใจพวกเรามากค่ะ ร้านอยู่ไกลจากริมโขงหน่อย แต่ก็หาไม่ยากนะ สำหรับร้านข้าวปุ้นน้ำแจ่วที่เชียงคานก็มีอยู่หลายเจ้าเหมือนกัน อย่าลืมไปลองค่ะ






หน้าตาข้าวปุ้นน้ำแจ่วเป็นแบบนี้ จากนั้นก็ใส่เครื่องปรุงตามชอบเลย


ส่วนภารกิจที่สองคือ การปั่นจักรยานไหว้พระ จะเลือกไหว้พระเก้าวัด, ห้าวัด หรือสามวัด ก็แล้วแต่ความสะดวก ขึ้นอยู่กับแผน และเวลาในโปรแกรมของแต่ละคนนะ ในเชียงคานมีวัดเยอะมาก เราขอแนะนำคร่าวๆ ดังนี้
วัดศรีคุณเมือง

เริ่มต้นที่ วัดศรีคุณเมือง อยู่ริมถนนชายโขง ซอย 6 - 7 ไปชมพระอุโบสถเป็นศิลปะล้านนาผสมล้านช้าง และภาพเขียนจิตรกรรมจากช่างโบราณที่หน้าจั่ว หลังจากได้บูรณะขึ้นใหม่ รวมกับภาพเขียนมีการสอดแทรกเรื่องราวปัจจุบันด้วย

วัดมหาธาตุ วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของเมืองเชียงคาน ไปชมพระอุโบสถไม้เก่าแก่ รูปแบบล้านช้าง ภายในประดิษฐานพลวงพ่อใหญ่ อยู่ปากซอย 14 ล่าง ติดถนนชายโขง (ชื่อคล้ายวัดที่สุโขทัย และ อยุธยา เลยนะคะ)
วัดมหาธาตุ

วัดท่าคก วัดนี้เชื่อกันว่าสร้างโดยพระยาศรีอรรคฮาต เจ้าเมืองคนสุดท้ายของเชียงคาน มีพระอุโบสถและศิลาจารึกด้านหน้าให้ชม

วัดป่าใต้ ไปชมพระอุโบสถเก่าแก่ ศิลปะแบบหลวงพระบาง

วัดป่ากลาง หรือ วัดมัชฌิมาราม วัดนี้มีพระอุโบสถสมัยใหม่ในแบบรัตนโกสินทร์ แต่ผสมผสานช่อฟ้าในแบบล้านช้าง

วัดสันติวนาราม เป็นวัดที่มีรอยพระพุทธบาทจำลองอยู่ค่ะ

วัดโพนชัย อยู่ระหว่างซอย 2 - 3 ชมพระอุโบสถที่มีสถาปัตยกรรมล้านช้างผสมสถาปัตยกรรมในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
วัดโพนชัย

ปิดท้ายที่ วัดภูช้างน้อย ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่บนเนินเขาสูง จุดเด่นคือบริเวณฐานพระพุทธรูปนี้คือจุดชมวิวเมืองเชียงคานที่อยู่ริมแม่น้ำโขงได้อย่างสวยงาม

ยังมีอีกหลายวัดที่ไม่ได้กล่าวถึง มาเที่ยวแล้วก็อย่าลืมสำรวจให้ทั่วนะคะ พวกเราไหว้พระเสร็จก็ประมาณ 10 โมง ยังมีเวลาถ่ายรูปได้อีกเยอะ ก่อนจะไป Check Out แต่ระหว่างนี้.. ถ่ายรูปกันต่อค่ะ

เดินถ่ายรูปครบทุกมุม เดินกันตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย วนไปซ้ำมา ชาวบ้านก็คงสงสัยว่าพวกเราจะเดินอะไรกันนักหนา -,,- หลังจากเดินอยู่พักใหญ่ ก็ได้เวลาอาหารอีกแล้ว (เย้!!)

มื้อกลางวันขอนำเสนอเมนูอาหารอิสานค่ะ มาเชียงคานทั้งทีต้องกินส้มตำรสเด็ด รสแซ่บ แบบอิสานนะ ที่เชียงคานมีร้านส้มตำดังๆ อยู่หลายร้าน เราเลือกแซ่บกันที่ร้าน กุมารทอง ซอย 17 เมนูห้ามพลาด ส้มตำด๊องแด๊ง

อิ่มแล้วไปเดินเผาผลาญพลังงานกันสักหน่อย เดินเล่นที่ถนนเลียบแม่น้ำโขง อากาศเย็นสดชื่นดีนะ มีลมเย็นๆ พัดมาน่านอนจังเลย~

เช้าๆ มาวิ่งออกกำลังกายเหมาะเลย

พวกเรายังกินได้อีกค่ะ เดินกันเพลินๆ จนถึงร้านกาแฟชื่อดัง "๙ เจริญ" อยู่ที่ซอย 9 นี่เอง แวะชิมกาแฟกันหน่อย  อ้อ! ร้านนี้เค้ามี Passport เชียงคานขายด้วยนะ เอาไว้ปั๊มตราประทับตามร้านค้าต่างๆ

จากนั้นได้เวลาที่เราต้องไป Check out กันแล้ว เก็บกระเป๋าแล้วสำรวจเชียงคานกันต่อเลย สำหรับคนที่หาข้อมูลที่พักจาก internet ไม่ต้องกังวลว่าจะเดินไกลจากริมแม่น้ำโขง หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เลยนะ เพราะบ้านพักแต่ละหลังอยู่ไม่ไกลกันเลย ร้านค้าก็เช่นกัน เดินแว้บเดียวก็ถึงกันหมดแล้ว เพราะฉะนั้นพักที่ไหนก็เหมือนกันค่ะ ถ้าจะเลือกก็คงดูเรื่องความสะดวก ความน่าอยู่ของบ้าน แล้วก็ราคา หลายๆ คนจะเน้นมองหาที่พักติดริมน้ำโขง เราว่าไม่ค่อยจำเป็นนะ เพราะกลางคืนก็มืดๆ มองไม่เห็นวิวอะไรอยู่ดี


ผีตาโขน สัญลักษณ์ของจังหวัดเลย

เห็นบ้านเมืองเงียบๆ แบบนี้แต่ก็มีร้านเปิดขายของฝากของที่ระลึกเยอะเหมือนกันนะ พวก postcard, magnet, ผ้าพันคอ, เสื้อ, พวกกุญแจ ฯลฯ หลากหลายค่ะ แต่พวกเราได้อะไรมารู้มั้ยคะ? แหนม !! แหนมสดเลย อร่อยด้วย ขายเป็นพวงราคาไม่แพง หรือจะลองกินข้าวจี่ก็ได้นะ ของโปรดเลย

ถ้าใครเดินเยอะแล้วเมื่อย ที่เชียงคานเค้าก็มีร้านนวดแผนโบราณนะ ที่จำได้ก็อย่างร้านไทเลย แล้วก็ ร้านคิดถึง ณ เชียงคาน มีบริการนวดแผนไทย และ นวดเท้า มาลองกันเองเลย

ส่วนพวกเราขอเลือกดื่มอะไรเย็นๆ ที่ร้าน จำเลยรัก ดีกว่า มีเมนูน้ำหวานเย็นๆ ซ่าๆ ให้เลือกเยอะ และเค้ายังมี Postcard ขายด้วย นั่งเขียนในร้านได้ตามสบาย อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือครบ สแตมป์ยังมีขายเลย เขียนเสร็จหยอดตู้หน้าร้านได้อีกแน่ะ ^O^


เชียงคาน 0 KM.

ริมโขงสวยๆ ฝั่งลาวอยู่ไม่ไกลเลย

เดินเที่ยวกันทั่วทุกซอกทุกมุมจริงๆ ค่ะ สำหรับที่เชียงคาน ขนาดว่าใช้เวลาแต่ละที่ แต่ละร้านอย่างนานเลยนะ ก็ยังไม่ค่ำสักที กว่าจะถึงเวลารถออกก็ประมาณหนึ่งทุ่ม แต่นี่เพิ่ง 5 โมงเย็น ทีนี้จะทำอะไรดีระหว่างรอ ตกลงกันได้ว่า งั้นไปนั่งกินข้าวกันดีกว่า (อิอิ...) ที่เชียงคานมีร้านอาหารดังๆ เยอะ และที่เราเลือกก็คือ ร้านระเบียง อยู่ระหว่างซอยศรีเชียงคาน 9 และ 10 (ล่าง) บรรยากาศดีมาก ร้านติดริมแม่น้ำโขงเลยค่ะ มองไปเห็นฝั่งลาวชัดเจน อาหารสดอร่อย แต่ราคาก็ไม่เบานะคะ


ร้านระเบียง

จวนได้เวลาที่รถจะมาแล้ว ก็ไปเตรียมตัวที่หน้าร้าน "ครัวแสงทอง" ได้เลย ร้านอยู่แถวๆ ตลาดสดเทศบาลเชียงคาน (ที่ลงรถครั้งแรก) รถทัวร์เค้าจอดแถวนี้ มีที่ให้นักท่องเที่ยวนั่งรอค่ะ


เวลา 2 วัน 1 คืนที่พวกเราอยู่ที่นี่ มีเรื่องประทับใจหลายอย่าง ทั้งบรรยากาศดี อาหารอร่อย และผู้คนก็เป็นมิตร เดินเที่ยวไปก็แวะคุยกับผู้เฒ่าผู้แก่ ได้ถ่ายรูปสวยๆ กันเต็มอิ่ม แม้จะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่อำเภอเชียงคานก็ยังคงเงียบสงบ เหมาะมากสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ มาพักผ่อนแบบสบายๆ ที่เชียงคานกันนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่าที่เชียงคาน เวลาเดินช้าจริงๆ ♪♫.. ♪♫...


1 comments:

Alex said...

The charms of Chiang Khan has drawn countless tourists to the northeastern province of Loei, all eager to experience the laid-back ambience of this old town and the scenic views it offers of the mighty Mekong. Few of them realise, however, that a mere 15km to the southeast of the town, there is another destination worth visiting especially for those who love ethnic culture.