Singapore / สิงคโปร์ 1



วันหยุดยาว.. ตัดสินใจกันอยู่นานว่าจะไปไหนดี สุดท้ายก็ลงคะแนนที่ สิงคโปร์ เพราะอยู่ไม่ไกลจากเมืองไทย และกำลังจะเป็นหนึ่งใน AEC ด้วย  ที่สำคัญคือมีทางเลือกครบสำหรับสมาชิกทุกคน ทั้งสวนสนุก สถาปัตยกรรม ธรรมชาติ และแหล่งช้อปปิ้ง จองตั๋วเสร็จ ที่พักพร้อม บัตร Ez-Link ก็มีแล้ว งั้นออกเดินทางตะลุยเมืองแห่งสิงห์กันเล้ย Let's go!!

Review สิงคโปร์ทริปนี้ อาจจะยาวหน่อยนะคะ เพราะมีรูปเยอะมาก และสิงคโปร์ก็มีที่เที่ยวน่าสนใจเยอะด้วย ขอเริ่มต้นเที่ยวที่ Chinatown ก่อนนะ เพราะเราต้องมาซื้อบัตรและตั๋วต่างๆ ที่ร้านแถวนี้พอดี ถ้าร้านที่คนไทยนิยมก็คงเป็นร้าน Sea Wheel อยู่ที่ชั้น 3 ห้าง People's Park Center ค่ะ หาไม่ยาก ขึ้นมาชั้น 3 มองไปรอบๆ ก็เจอแล้ว

บรรยากาศใน China Town ก็จะคล้ายๆ เยาวราชบ้านเรา มีที่พักดีๆ ให้เลือกเยอะแยะ บางโรงแรมอยู่ติด MRT เลยนะ ราคาก็ไม่แพงมาก ถ้ามาย่านนี้ของฝากก็คือ พวกกุญแจ นั่นเอง...




นอกจากมีของฝากให้เลือกซื้อเยอะแล้ว ตึกต่างๆ ในไชน่าทาวน์ยังคงเอกลักษณ์แบบสิงคโปร์ไว้อย่างสวยงาม และย่านนี้ก็มีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่มากมาย เช่น ที่ตึก The URA Centre ข้างบนจะมี Singapore City Gallery ให้ขึ้นไปดูข้อมูลแผนผังและสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ ของสิงคโปร์ในอนาคตได้  ข้างๆ กันก็มีตึกแดง Red Dot Design Museum สีสันสดใสชวนให้ถ่ายรูปอยู่ด้วย แล้วก็อย่าลืมไปไหว้พระที่ Thian Hock Keng Temple วัดชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ต่อด้วยวัด Sri Mariamman Temple เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ และวัดที่เราชอบมาก ก็คือวัดพระเขี้ยวแก้วที่คนไทยคุ้นเคยดี หรือ Buddha Tooth Relic Temple & Museum ที่ใช้เงินทุนในการก่อสร้างกว่า 62 ล้านเหรียญสิงคโปร์ อย่าลืมเข้าไปไหว้พระกันนะคะ ข้างในมีอะไรให้ดูเยอะ ส่วนข้างนอกก็อลังการมากมาย

Buddha Tooth Relic Temple&Museum
เดินสำรวจย่าน China Town จนทั่วแล้ว ก็ข้ามถนนมาที่ศูนย์อาหาร Maxwell Food ที่อยู่เยื้องกับวัด พระเขี้ยวแก้ว ลองข้าวมันไก่ร้าน Tian Tian ที่เค้าว่าอร่อยที่สุดกัน แต่ต้องทำใจเรื่องแถวยาวนิดนึง
หน้าตาข้าวมันไก่จากร้าน Tian Tian Hainanese Chicken Rice
ลองชิมแล้วไม่ค่อยโดนใจ ชอบข้าวมันไก่บ้านเรามากกว่า เอาล่ะ! ได้เวลาไป Check in สักที รอบนี้เราเลือกพักที่ V Lavender Hotel เพราะทำเลดี ตั้งอยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้า Lavender Station ด้านหน้าก็มีป้ายรถเมล์ บริเวณโรงแรมก็มีร้านขาย และศูนย์อาหาร Kopitiam ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง กลับมาดึกแค่ไหนก็มีข้าวกินค่ะ เมนูที่เราชอบมากก็คือโจ๊กไข่เยี่ยวม้า ลองสั่งกินตอนเช้านะ อร่อยและเติมพลังได้ดีมาก ในส่วนของห้องพักก็ใช้ได้เลย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ยิ่งถ้าพักห้องสูงๆ จะได้เห็นวิวสวยๆ ของเมืองสิงคโปร์ด้วย ห้องพักสะอาด เตียงนอนก็นุ่ม เรียกว่าคุ้มค่าคุ้มราคาดีค่ะ

หลังจากพักผ่อนกันสักพัก เราก็ออกไปเดินเล่นที่ Suntec City เดินผ่านทางเชื่อม CityLink Mall ห้างฯ ใต้ดินที่อยู่ระหว่างสถานี City Hall กับอาคาร One  Raffles Link เดินตามทางเชื่อมไปเรื่อยๆ นะคะ เราจะไปขอพรที่ Fountain of Wealth หรือน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ที่เค้าล่ำลือว่าถ้าได้มาสัมผัสน้ำพุที่นี่แล้วความปราถนาจะเป็นจริง

ขั้นตอนคือ ใช้มือขวาสัมผัสน้ำและอธิษฐาน จากนั้นเดินวนตามเข็มนาฬิกาให้ครบ 3 รอบ คำอธิษฐานก็จะสัมฤทธ์ผล~



ตอนค่ำที่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์จะมีการแสดงโชว์ Foundtain of Wealt ที่ Suntec city ด้วย รอบ 20.00 / 20.30 และ 21.00 น. ชมฟรี!! (ถ้าหิวก็แวะทานข้าวที่ food court ใน Suntec Tower 4 ชั้น B1)  ตึกซันเทคนี้เชื่อมต่อกับห้างฯ ใต้ดิน CityLink Mall มีทั้งหมดห้าตึก เปรียบเสมือนนิ้วมือทั้งห้าตามหลักฮวงจุ้ย และมีเลขประจำทุกตึก

เสร็จแล้วเราก็นั่ง MRT ไปที่ Gardens by the Bay เริ่มจากส่วนของ Supertree Grove ที่มีความสูงตั้งแต่ 25 - 50 เมตร ทั้งหมด 18 ต้น ข้างบนก็มีทางเชื่อม (OCBC Skyway) ให้ขึ้นไปเดินชมวิว คนละ 5 เหรียญสิงคโปร์ รอบๆ Supertree ก็มีที่ให้นั่งเล่นพักผ่อนได้ เป็นสวนที่อลังการดีจัง ตอนกลางคืน Supertree Grove ก็มีโชว์แสงสีเสียง lights and sounds ให้ดูฟรีด้วยค่ะ


ส่วนโดมที่เสียเงิน และต้องเข้าไปดูให้ได้คือ Flower Dome และ Cloud Forest ซื้อตั๋วแบบที่ดูได้ทั้ง 2 อย่าง ราคาผู้ใหญ่ 28 เหรียญสิงคโปร์ (แนะนำให้ดู Flower Dome ก่อนนะ)

Cloud Forest
ส่วนของ Cloud Forest Dome ถือว่าเป็น Highlight เลยนะ เพราะมีการจำลองน้ำตกขนาดใหญ่ไว้ตรงทางเข้า มีทางเชื่อมให้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวได้อย่างทั่วถึง ครบทุกจุด มีการทำหมอกขึ้นมาเองด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนจริงมาก เหมือนเราเดินอยู่ในป่าจริงๆ (>‿◠)✌ ข้างในก็อากาศเย็นสบาย บางจุดก็มีหนาวบ้าง และตรงทางออกก็มีสารคดีสั้นๆ เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนให้ดูเป็นความรู้ด้วยค่ะ

สวยงามยิ่งใหญ่คุ้มราคาจริงๆ และบริเวณรอบนอกยังมีสวนที่น่าสนใจอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น Heritage Gardens, Dragonfly & Kingfisher Lakes, Bay East Garden และ World of Plants เรียกว่าเดินถ่ายรูปกันได้แบบเต็มที่! ใครขี้เกียจเดินก็ใช้บริการรถรางได้นะ (5 เหรียญสิงคโปร์) หรือจะแวะซื้อของที่ระลึกก็ได้ มีทั้งร้านขายของและร้านอาหาร (อร่อยด้วย)
มีทางเชื่อมให้เดินเห็นครบทุกจุดแน่นอน ยิ่งขึ้นข้างบนนะ วิวดีสุดๆ
Supertree Dining
ทานข้าวเสร็จก็ออกมาเดินย่อยที่ Supertree ได้นะ




ระหว่างทางเดินเชื่อมมีวิวสวยๆ ของสิงคโปร์ให้แวะเก็บภาพตลอดทาง


ภายใน Marina Bay Sands ขาช้อปห้ามพลาดเลยเชียว
อยู่กันจนมืดค่ำก็ได้เวลากลับแล้ว เราเดินไปที่ Marina Bay Sands เพื่อไปดูการแสดงแสงสีเสียงของ Marina bay ที่ลาน The Prommonard มี 2 รอบ คือ 20.00 น. และ 21.30 น.

โชว์จบแล้ว ถ้ายังไม่กลับก็เดินชมวิวริมแม่น้ำสิงคโปร์ตอนเย็นๆ ก่อนนะคะ สวยงามแล้วก็โรแมนติกมาก ได้มานั่งดูวิวสวยๆ แบบนี้แล้วสบายใจจริงๆ

แถวๆ นี้ก็จะมี ArtScience Museum ตึกรูปดอกบัวด้านหน้ามีสระบัวใหญ่ให้นั่งชิลกันได้ และสะพาน The Helix Bridge ที่สวยงามและกวาดรางวัลมาเพียบ น่าถ่ายรูปเก็บไว้ค่ะ หรือถ้าอยากเพิ่มความโรแมนติกขึ้นอีก ก็อาจจะล่องเรือชมวิวตอนค่ำกันได้นะ ส่วนพวกเราขอกลับไปพักก่อน แล้วพรุ่งนี้มาลุยกันต่อจ้าาา Zzzz...
 ...................................

กลับมาเที่ยวโซนมารีน่าเบย์กันต่อ เรายังอยู่แถวๆ Marina Bay Sands ที่เป็นทั้งโรงแรม, ห้างสรรพสินค้า และคาสิโนระดับโลก แถมข้างบนยังมี Sands SkyPark ที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวถ่ายรูปกันด้วย โดยมีค่าใช้จ่าย 20 เหรียญสิงคโปร์ / คน (ไม่จำกัดเวลา) เราเดินเล่นทะลุไปเรื่อย แดดไม่ร้อนค่ะ ใกล้ๆ กันก็มีชิงช้าใหญ่ยักษ์อย่าง Singapore Flyer จุดชมวิวแบบ 360 องศา ราคา 33 เหรียญสิงคโปร์ / รอบ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที วิวก็คล้าย Sands SkyPark ราคาก็อาจสูงกว่านิดหน่อย แล้วแต่คนชอบละกัน เลือกที่เหมาะกับเรานะคะ

Singapore Flyer
สะพาน The Helix
ชมวิวแม่น้ำสิงคโปร์ ซึ่งแม่น้ำนี้เป็นเสมือนเส้นเลือดหลักของคนสิงคโปร์ ปัจจุบันเป็นท่าเรือที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และเป็นจุดชมวิวสุดฮิตด้วยล่ะ  มองไปอีกฝั่งเห็น Marina Bay Sands ชัดเจน  ส่วนด้านล่างนี้คือสนาม Youth Olympic Park
Youth Olympic Park

ถ้ามีเวลาก็เดินไปถ่ายรูปที่โบสถ์ St. Andrew's Cathedral , สนามปาดัง (The Padang) ถ่ายรูปจุดชมวิวสวยๆ , Parliament House อาคารรัฐสภาที่ตกแต่งสวยงาม หรือจะเข้าไปดูงานในพิพิธภัณฑ์ Asian Civilisations Museum แห่งที่สองกันได้ และอย่าลืมไปถ่ายรูป The Art House มีรูปปั้นช้างจาก ร.5 ที่พระราชทานเป็นที่ระลึกเมื่อครั้งเสด็จเยือนสิงคโปร์ในปี 1871 ด้วยนะ เฮ่อ... แถวนี้มีอะไรให้ดูเยอะจริงๆ เลือกจัดทริปกันไม่ถูกเลยทีเดียว - -

Asian Civilisations Museum


Parliament House


ยังไม่หมดนะคะ เดินเล่นไปเรื่อยๆ ชมบรรยากาศริมแม่น้ำสิงคโปร์, ดูวิวแถวโรงแรม The Fullerton & Cavenagh Bridge แวะพักกันที่ Esplanade Park ตึกทุเรียนที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวบนชั้นดาดาฟ้าได้ รับลมเย็นพร้อมชมวิวสวยริมน้ำ มีสิ่งปลูกสร้างยุคประวัติศาสตร์ให้ได้ชมมากมาย






ล่องเรือชมวิวตอนกลางวันก็ได้นะคะ สวยไปอีกแบบ

เดินต่อไปจนถึง Merlion Park สิงโตพ่นน้ำ ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์เค้าเลยล่ะ
การเดินทาง : สถานี Clark Quay NE5 ทางออก E จากนั้นเดินเลียบแม่น้ำสิงคโปร์ไป หรือลงสถานี City Hall ทางออก B เดินตามถนน North Bridge Road แล้วเลี้ยวตรงถนน High Street

หลังจากเดินเที่ยวสำรวจย่านนี้เสร็จแล้ว ก็ไปหาอะไรอะไรอร่อยๆ กินที่ Central Clarke Quay ดีกว่า ว่ากันว่าแถวป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลฯ มี บะกุ๊ดเต๋ (Bak kut teh) อร่อยด้วยละ ต้องไปชิม

ถ้ายังไม่อิ่ม ก็ไปลุยต่อที่ Food Street ย่าน China Town มีของกินให้เลือกเพียบ แล้วอย่าลืมชิม ice kajang น้ำแข็งไสไฮโซ ด้วยล่ะ คลายร้อนได้ดีทีเดียว

China Town Night Market
ถ้าใครยังไม่เหนื่อย ก็เดินซื้อของที่ China Town Night Market แบบเพลินๆ ต่อได้ แต่พวกเราขอกลับไปนอนเก็บแรงไว้เดินต่อพรุ่งนี้นะคะ Zzzzz....
..................................


วันนี้ตื่นเช้ากันพร้อมหน้า มาเติมพลังด้วยโจ๊กไข่เยี่ยวม้าของโปรด ที่ศูนย์อาหาร Kopitiam ก่อนที่จะเดินทางไปเกาะ Sentosa โดยใช้บริการ sentosa express ในห้าง Vivo City ห้างฯ ที่ได้รับรางวัลด้านการออกแบบมากมาย วันนี้เราจะไปเที่ยวสวนสนุกกัน ><

จากสถานีในห้าง Vivo ก็มาลงที่สถานี Waterfront Station เพื่อเข้า USS ค่ะ

Universal Studios Singapore ไม่ใช่เด็กก็เที่ยวสวนสนุกได้นะ เพราะที่นี่มีเครื่องเล่นสำหรับผู้ใหญ่อย่างเราเยอะกว่าเด็กๆ ซะอีก Ha Ha... สวนสนุกเปิดตั้งแต่ 10.00 - 19.00 น.

ภายในสวนสนุกมีทั้งหมด 7 โซน เครื่องเล่นที่ห้ามพลาดและเราอยากแนะนำตามนี้เลย
อันดับแรก
โซน Sci-Fi City เล่น TRANSFORMERS The Ride: The Ultimate 3D Battle ต่อด้วย Battlestar Galactica รางแดง และ รางน้ำเงิน
โซน Ancient Egypt เล่น Revenge of the Mummy และ Treasure Hunters
โซน The Lost World ดูโชว์ WaterWorld จากนั้นเล่น Canopy Flyer / Rapids Adventure (ทานอาหารที่ศูนย์อาหาร Discovery Food Court และ Fossil Fuels  ได้นะคะ)
โซน Far Far Away ชมภาพยนตร์ Shrek 4-D Adventure ส่วน Donkey LIVE ให้เด็กเล่นเถอะ
โซน Madagascar ดูโชว์ I Like To Move It. + ถ่ายรูปกับตัวการ์ตูน หรือจะเล่นม้าหมุน King Julien's Beach Party-Go-Round ก็ได้นะ
โซน Hollywood ดูโชว์ Monster Rock at Pantages Hollywood Theatre
โซน New York ดูโชว์ Lights, Camera, Action!™ Hosted by Steven Spielberg และเครื่องเล่นเปิดใหม่อย่าง Sesame Street Spaghetti Space Chase

อย่างที่แนะนำไป เครื่องเล่นที่ห้ามพลาด TRANSFORMERS The Ride!!! อยู่ในโซน Sci-fi City ต้องรีบไปต่อแถวนะคะ เพราะแถวยาวมากๆๆๆๆ แต่ก็สนุกคุ้มค่าที่รอ ลองเล่นเถอะ

รถไฟเหาะตีลังกาความเร็วสูง ขนาดความสูงเท่าตึก 14 ชั้น
Ancient Egypt & Mummy
ใครยังวัยรุ่นแล้วชอบความท้าทาย ก็ลองเครื่องเล่นสุดหวานเสียวอย่าง Battlestar Galactica ทั้งรางแดง และ รางน้ำเงิน ได้นะคะ แต่ต้องประเมินตัวเองก่อนนะว่าเล่นไหวหรือเปล่า บางคนเล่นแล้วอ้วกก็มี แต่บางคนก็ชิลๆ ติดใจขอเล่นอีก (เฮ้ย!) O_o ส่วนเครื่องเล่นในโซน Ancient Egypt & Mummy ต้องฝากกระเป๋าและกล้องไว้ที่ลอกเกอร์ที่อยู่ด้านข้างก่อนนะ ฟรี 30 นาทีแรกค่ะ

ต่อด้วย Water World ชมโชว์การแสดงสตั้นมันส์ๆ (ตอนที่ยืนรอคิวอากาศร้อนที่สุด ถ้ามีผ้าเย็ดติดไปด้วยคงเริ่ดมาก) จากนั้นก็ไปที่โซน Far Far Away เพื่อดู Shrek 4-D Adventure อันนี้ก็แนะนำค่ะ
โชว์ Water World









พักทานอาหารกลางวันกันก่อน มีทั้งศูนย์อาหาร และร้าน Fast Food ให้เลือก





ขอแว้บบบบ.... ออกจาก USS สักชั่วโมง ไปถ่ายรูปที่ Merlion ตัวใหญ่กันค่ะ (เราสามารถกลับเข้า USS ได้อีกนะ ตอนออกไปเจ้าหน้าที่จะประทับตราไว้ที่แขน)
การเดินทาง : Sentosa Express ลงสถานี Imbiah St. หรือเดินจาก USS ไปทาง Resort World ขึ้นบันไดไปก็ถึงแล้วค่ะ

ด้านหลัง Merlion จะมีทางเดินที่เรียกว่า Merlion Walk อยู่ด้วย เป็นน้ำพุแบบโมเสก สีสันสวยงาม แถวนี้ก็จะมีเครื่องเล่นและสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายจุด เช่น Images Of Singapore สถานที่รวบรวมประวัติศาสตร์ต่างๆ ก่อนจะมาเป็นสิงคโปร์ ใครที่ชอบแนวนี้ก็ตีตั๋วเข้าชมกันได้เลย


ถัดมาก็เป็นเครื่องเล่นสูงๆ เพื่อชมวิวเกาะเซ็นโตซ่าแบบ 360 องศาอย่าง Tiger กันบ้าง ซึ่งเป็นหอคอยชมวิวขนาดความสูง 110 เมตร บรรจุนักท่องเที่ยวได้รอบละ 72 คนเลยทีเดียว

เดินถัดมาหน่อยก็ถึง Luge & Skyride เครื่องเล่นที่พวกเราชอบมาก เป็นการขับรถไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ส่วนขากลับก็นั่งกระเช้ากลับมาที่เดิม สนุกมากจริงๆ แนะนำว่าต้องเล่นให้ได้!!

สำหรับคนที่จะกลับเข้าไปที่ Universal Studio อีกรอบ ก่อนเข้าก็โชว์บัตรพร้อมตราประทับที่แขนด้วยนะคะ อาจจะไปเก็บตกเครื่องเล่นที่พลาด หรือเมื่อกลางวันแถวยาวเกินไป ก็กลับมาเล่นใหม่ช่วงเย็นได้  แถมยังมีเวลาเดินถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ในสวนสนุกได้เต็มที่ ตัวละครก็ออกมาโชว์ตัวให้ถ่ายรูปเยอะด้วย ช่วงประมาณ 18.00 น. ก็มีขบวนพาเหรดสุดอลังการให้ดู ถ้าไม่อยากพลาดก็กะเวลากลับเข้าไปให้ทันนะ และก่อนปิดสวนสนุกจะมีโชว์พลุสวยๆ ให้ดูปิดท้าย อยู่แถวโซน Hollywood เรียกว่าเที่ยวตั้งแต่เปิดยันปิดคุ้มสุดๆ

พวกเราก็กลับเข้าไปถ่ายรูปกับตัวการ์ตูนดังๆ จากหลายเรื่องเลย เหล่าการ์ตูน Madagascar อเล็กซ์กับเพื่อนซี้ ม้าลายมาร์ตี้ เจ้ายีราฟ เมลแมน และฮิปโป กลอเรีย ที่เราชื่นชอบ ขอเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกก่อนนะ

I Like To Move It
Lake Hollywood Spectacular
การแสดงพลุ Lake Hollywood Spectacular สวยงามประทับใจค่ะ แต่วันนั้นไม่ค่อยมีลมทำให้มีควันจากพลุเยอะไปหน่อย แต่ก็ยังสวยอยู่ดีนะ เราชอบมาก

ออกมาข้างหน้า USS อย่าลืมแวะซื้อ Garrett Popcorn กันด้วยค่ะ หอมๆ กรอบๆ อร่อยนะ ระหว่างนี้เราเข้าไปดู Maritime Experiential Museum & Aquarium พิพิธภัณฑ์การเดินสมุทรซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับเส้นทางการพัฒนาประวัติศาสตร์การเดินทะเลของสิงคโปร์กันค่ะ ข้างในก็มีอะไรให้ดูเพลินๆ เหมือนกัน


จากนั้นก็ไปจองที่นั่งรอดู Crane Dance ตามโปรแกรมด้านล่างนี้ได้เลย~
V
v
ปิดท้ายด้วยภาพสวยๆ จาก Crane Dance ส่งทุกคนนอนหลับฝันดีนะคะ แล้วมาแพลนทริปของคุณกับ สิงคโปร์ Part 2 กันต่อค่ะ ♪♫.. ♪♫...

Singapore Part 2
////////////////////////////


0 comments: