อำเภอปาย เป็นอำเภอเล็กๆ อยู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาที่นี่มากมาย โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ และอากาศที่เย็นสบาย ทำให้ปาย กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้นๆ เข้ากับคำขวัญของอำเภอปายที่ว่า "ลำปายสายธาร นมัสการหลวงพ่ออุ่นเมือง ลือเลื่องกระเทียมพันธุ์ดี ป่าเขียวขจีรอบทิศ วิถีชีวิตสงบร่มเย็น" ที่นี่เค้าเป็นแบบนี้จริงๆ ค่ะ
สำหรับทริปนี้ โรงแรมที่พวกเราเลือกก็คือ บุระลำปาย รีสอร์ท (Bura Lumpai Resort) ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาของเมืองปายอันเงียบสงบ ถูกใจคนรักธรรมชาติอย่างแน่นอน ห้องพักที่นี่สวยงาม กว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีโซนอาบน้ำกลางแจ้งด้วย เรียกว่าได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติกันสุดๆ ยิ่งตอนเช้าได้สูดอากาศ ชมวิวภูเขาจากระเบียงห้องนะ สดชื่นที่สุดเลย~

สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย |
อิ่มแล้วก็ได้เวลาออกไปสำรวจอำเภอปายกันสักที ทริปนี้โชคดีได้เริ่มกันแต่เช้า ไม่ต้องกลัวว่าจะเที่ยวไม่ครบ เพราะรอบนี้เราเก็บหมดแน่นอน โดยที่แรก พวกเราแวะชมวิวที่ Pai Canyon หรือกองแลน ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยเกิดจากการยุบตัวของดิน (ลักษณะเหมือนแพะเมืองผี จ.แพร่) นักท่องเที่ยวต้องจอดรถไว้ข้างล่าง (มีที่จอดรถให้นะคะ) แล้วเดินเท้าขึ้นไป ทางเดินขึ้นก็ตามภาพด้านล่างนี้เลย คนท้องถิ่นบอกว่า เค้าทำทางเดินกันใหม่ ช่วยให้เดินขึ้นง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะ
สูงม๊ากกกกกกกกกก >_< หวาดเสียวด้วยอ่ะ เหมือนจะตกลงไป
ต่อกันที่จุดชมวิวยอดฮิตที่ Coffee In Love เป็นจุดชมวิว+ร้านกาแฟยอดนิยมที่มีวิวสวยงาม

ดูแล้วเวลายังเหลืออีกเยอะ ขอแวะไหว้พระที่ วัดป่าขาม และ วัดหลวง ด้วยเลยนะ
ที่เห็นนี้คือ วัดหลวง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของปาย มีเจดีย์ทรงมอญ-พม่า สีขาวขนาดใหญ่ที่สวยงาม ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางลานวัด
จากนั้นก็กลับมาเดินเที่ยวถนนคนเดินเมืองปาย ชมบรรยากาศเมืองตอนเย็น เลือกซื้อของฝาก เดินซื้อขนมของกินให้ทั่ว ตลาดจะเริ่มประมาณ 6 โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืนนะคะ แต่เรามาตลาดยังไม่เริ่ม ก็มีเวลาเดินชมบ้านเมืองสักหน่อย มีร้านอาหารเปิดบริการมากมาย แต่บรรยากาศก็ยังเงียบสงบเหมือนเดิม ไม่ค่อยวุ่นวายนะ ดูรูปไปเพลินๆ ค่ะ
อย่าลืมแวะชิมเค้กอร่อยๆ ที่ร้านเค้กโกโอกันด้วยนะคะ เราลองแล้วติดใจอยากแนะนำ ทีนี้ก็เดินข้ามสะพาน ถ่ายรูปริมแม่น้ำ ลำธาร แถวนี้อากาศสดชื่นจริงๆ เห็นว่าเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ด้วยนะ
หลังจากเดินเที่ยวจนครบทุกซอยแล้ว เราก็แวะซื้ออาหารอร่อยที่ครัวตายายกลับเข้าไปกินที่โรงแรมกัน (ลืมบอกไปว่าพักที่นี่ต้องเตรียมของกินตอนเย็นนิดนึง เพราะดึกๆ หาซื้อของกินยากค่ะ) หรือถ้าใครสะดวกก็ทานข้าวแถวหน้าที่ว่าการอำเภอปายได้นะ มีร้านส้มตำอร่อยอยู่ด้วย^^
--------------------------
เช้านี้สดใส สดชื่นเหมือนเดิม ได้ตื่นมาเจอภูเขาแบบนี้ทุกเช้าคงยอดเยี่ยมมาก!! อาหารเช้าที่บุระลำปาย รีสอร์ท เสิร์ฟให้พวกเรามาในรูปแบบปิ่นโต น่ารักมากกกก♥ ชอบสุดๆ แปลกดีไม่ซ้ำใคร แถมอาหารยังอร่อยอีกด้วย แน่นอนว่าเราซัดเรียบ 555+
แล้วก็ออกไปจัดของหวานกันต่อที่ร้าน Hillside Coffee House แวะชิมเค้ก+ชาเขียวอร่อยๆ พร้อมชมวิวแบบ Feel Switzerland Touch in Pai (ร้านอยู่ตรงข้ามกับจุดชมวิวเมื่อวาน) อิ่มหนำสำราญพุงกันแล้ว เราก็ได้มีโอกาสไปชมวัดน้ำฮู ไหว้หลวงพ่ออุ่นเมือง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของเมืองปายที่สมเด็จพระนเรศวรทรงสร้างเมื่อครั้งยกทัพผ่านเมืองปายเพื่อไปตีพม่า (วัดอยู่ห่างจากอำเภอไปทางโรงพยาบาลปาย ประมาณ 3 กิโลเมตร)
วัดน้ำฮู |
จากนั้นก็ขับรถไปเที่ยวกันต่อ ชมหมู่บ้านจีนยูนานที่บ้านสันติชล (ห่างจากตัวเมืองปาย ประมาณ 8 กิโลเมตร) สามารถแวะไปถ่ายรูป ชมวิวสวยๆ ดูบ้านดินแบบจีน และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองได้ตามอัธยาศัย
เด็กๆ เล่นชิงช้าหมุน น่าสนุกมาก |
เดินเที่ยวจนทั่วแล้วก็อย่าลืมแวะทานอาหารกลางวันสุดอร่อย ร้านขาหมูยูนนาน ที่หมู่บ้านสันติชล (อาหารแนะนำ ขาหมูน้ำแดง) มาถึงนี่แล้วไม่ชิมขาหมู ถือว่าพลาดครั้งใหญ่
เสร็จแล้วก็ไปเที่ยวแคมป์ช้าง และน้ำพุร้อนท่าปาย กันต่อเลย
ที่นี่เราสามารถลงแช่น้ำพุร้อนตามบ่อที่จัดไว้ให้ได้นะคะ อุณภูมิน้ำจะอุ่นๆ ไม่ร้อนมาก จะลงแช่ทั้งตัว หรือจะแช่เฉพาะเท้าก็ได้ค่ะ วิธีการก็คือหย่อนตัวลงในบ่อน้ำร้อนอย่างช้าๆ เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพให้เข้ากับน้ำร้อน แช่และผ่อนคลายความเครียดตามอัธยาศัย แต่อย่าแช่นานเกินไปนะ เอาแค่ให้ผ่อนคลายให้พอแล้ว^^ ถ้าจะลงแช่ทั้งตัวก็อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนด้วยล่ะ

และถ้าดูตามแผนที่ พวกเราก็เที่ยวครบแล้ว กลับมาที่จุดเริ่มต้นพอดีด้วย เรียกว่าอำเภอเล็กๆ อย่างเมืองปายแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจไว้ให้นักท่องเที่ยวอย่างครบถ้วน เนื่องจากเป็นอำเภอเล็ก นักท่องเที่ยวมีเวลาแค่วันเดียวก็เที่ยวได้ครบหมดแล้วล่ะค่ะ แต่สิ่งสำคัญที่หลายคนต้องการเดินทางมาสัมผัสก็คงจะเป็นธรรมชาติที่สวยงาม และความเงียบสงบ ที่เป็นเสน่ห์ให้ปายดูอบอุ่นและน่าสนใจมากกว่าที่ไหนๆ ได้มาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและอากาศดีๆ แบบนี้แล้ว จะรีบร้อนไปทำไม ค่อยๆ เที่ยว เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างเต็มที่
0 comments:
Post a Comment